ความขัดแย้งระหว่างความเชื่อกับความจริง

************

เรื่องระดับคำสอนของพระพุทธเจ้า

ชาวพุทธที่ไม่ได้ศึกษาหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ก็จะมีความเชื่อกัน (ผิดๆ) ว่าคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นมีระดับเดียว คือสอนเรื่องการทำดีแล้วจะได้ความสุขหรือตายไปแล้วได้ขึ้นสวรรค์ แต่ถ้าทำความชั่วแล้วจะได้ความทุกข์หรือตายไปแล้วตกนรก แต่ถ้าฝึกสมาธิเจริญปัญญาก็จะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดทางร่างกาย แล้วก็จะไม่กลับมาเกิดเป็นอะไรอีก คือจะนิพพานหรือดับสูญไปเลย (แต่บางคนก็เชื่อว่านิพพานเป็นบ้านเมืองที่มีแต่ความสุขไม่มีความทุกข์ ถ้าใครได้บรรลุนิพพานแล้วก็จะมาอยู่ที่เมืองนี้ตลอดไปชั่วนิรันดรหรือมีชีวิตที่เป็นอมตะ)

แต่ในความเป็นจริงนั้น คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นมี ๒ ระดับ คือ ระดับพื้นฐานหรือระดับศีลธรรม กับ ระดับสูงหรือระดับปรมัตถธรรม โดยคำสอนระดับศีลธรรมนั้นเป็นคำสอนระดับพื้นฐานที่เอาไว้สอนคนที่ยังมีสติปัญญาไม่มากพอ เช่นคนป่า หรือชาวบ้านทั่วๆไปที่ไม่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้องและเพียงพอ ซึ่งคำสอนระดับศีลธรรมนั้นก็สรุปอยู่ที่ การสอนให้ละเว้นการทำความชั่วทั้งปวง (เช่น สอนให้มีศีล ละเว้นอบายมุข สิ่งเสพติด สิ่งฟุ่มเฟือย เป็นต้น) แต่สอนให้ทำแต่ความดีให้ถึงพร้อม  (เช่น สอนให้ช่วยเหลือคนอื่น กตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ อ่อนน้อมถ่อมตน ใช้ชีวิตที่เรียบง่าย เป็นต้น) โดยผลของศีลธรรมนั้นก็คือความปกติสุขของส่วนตัวและสันติภาพของโลก โดยคำสอนระดับศีลธรรมของพุทธศาสนาในปัจจุบันจะมีคำสอนของศาสนาพราหมณ์มาปลอมปนอยู่ด้วยโดยชาวพุทธไม่รู้ตัว ซึ่งก็ได้แก่คำสอนเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดทางร่างกาย เรื่องนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้า เรื่องเทวดา นางฟ้า ชนิดที่เป็นบุคคลตัวตน และเรื่องกรรมชนิดข้ามภพข้ามชาติด้วย เป็นต้น

ส่วนคำสอนระดับปรมัตถธรรมนั้นเป็นคำสอนระดับสูงที่เอาไว้สอนเฉพาะคนที่มีสติปัญญามากพอ เช่น นักศึกษา นักวิทยาศาสตร์ นักคิดนักเขียน เป็นต้น ที่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อย่างถูกต้องและเพียงพอ ซึ่งคำสอนระดับสูงนี้เรียกว่า อริยสัจ ๔ ซึ่งเป็นคำสอนเรื่องการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ หรือดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบัน ซึ่งคำสอนระดับสูงนี้ก็มีหัวใจอยู่ที่เรื่องความไม่ใช่ตัวตน (อนัตตา) ของร่างกายและจิตใจทั้งหลาย โดยผลของปรมัตถธรรมก็คือ นิพพาน หรือความไม่มีทุกข์ของจิตใจในปัจจุบัน

สรุปได้ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นมี ๒ ระดับ คือระดับของคนมีปัญญามากกับระดับของคนที่มีปัญญาน้อย ซึ่งถ้าเอาคำสอนของคนมีปัญญาน้อยมาสอนคนมีปัญญามาก เขาก็จะไม่ยอมรับเพราะเขาจะมองว่าเป็นคำสอนง่ายๆที่ใครๆหรือศาสนาไหนๆเขาก็สอนกันอยู่แล้ว หรือถ้าเอาคำสอนของคนมีปัญญามากมาสอนคนมีปัญญาน้อยเขาก็จะไม่ยอมรับ เพราะเขามีความรู้ไม่เพียงพอ และเขาอาจจะมองคนสอนว่าบ้าหรือมีความเห็นผิดหรือจะมาทำลายศาสนา (ความเชื่อ) ของเขาได้ โดยพระพุทธเจ้าจะสอนเฉพาะคำสอนระดับสูงเท่านั้น เพราะเป็นประโยชน์สูงสุด ส่วนศีลธรรมนั้นจะไม่เน้นสอน เพราะมีผู้สอนกันอยู่มากแล้ว

เตชปัญโญ ภิกขุ

อาศรมพุทธบุตร เกาะสีชัง ชลบุรี

๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.whatami.net

*********************
หน้ารวมบทความ
*********************
Free Web Hosting